Press ข่าววันนี้ 15 ตุลาคม 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 197
กรมสุขภาพจิต ชี้การพนันคือเกมที่ผู้เล่นไม่มีวันชนะ เผยเป็นต้นตอของปัญหาครอบครัวและสังคมไทย
วันนี้ (15 ตุลาคม 2568) กรมสุขภาพจิต แนะครอบครัวเข้าใจและช่วยเหลือผู้ติดการพนันอย่างถูกวิธี ย้ำ “การพนัน” เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพจิต เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ภายในครอบครัว หากขาดการจัดการที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงทั้งในระดับครอบครัวและระดับสังคม พร้อมชวนคนใกล้ชิดร่วมดูแลด้วยความเข้าใจ ไม่ตำหนิหรือผลักไส แต่ช่วยฟื้นฟูด้วยกำลังใจ กิจกรรมผ่อนคลาย และการส่งต่อเข้ารับการบำบัดอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ติดการพนันสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพอีกครั้ง
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาที่เกิดจากการติดการพนันในคนไทยมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดกับตัวบุคคลที่ติดการพนันเอง เช่น มีความขัดแย้งกับคนรอบข้าง ปัญหาความเครียด ปัญหาซึมเศร้า หรือรุนแรงจนถึงการฆ่าตัวตาย ส่วนปัญหาในระดับครอบครัวคือทำให้เกิดความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้งหรือแม้แต่เกิดความรุนแรงในครอบครัวนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจ และผลกระทบทางด้านจิตใจของสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ ปัญหาการติดการพนันของคนในสังคมจะนำไปสู่อาชญากรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลักขโมย ชิงทรัพย์ หรือก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้สังคมเกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาสุขภาพจิตให้แก่ คนในสังคมในภาพรวม การติดการพนัน หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Gambling Disorder จัดอยู่ในกลุ่มความผิดปกติทางพฤติกรรม ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการติดสารเสพติด เช่น การดื่มสุราหรือการใช้ยา เพราะสมองของผู้ติดการพนันจะมีการกระตุ้นวงจรความพึงพอใจ ทำให้เกิดความสุขเมื่อเล่น และรู้สึกอยากเล่นซ้ำแม้จะเกิดผลเสียกับชีวิต องค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (APA) กำหนดว่า ผู้ที่ติดการพนันจะมีอาการสำคัญอย่างน้อย 4 ข้อขึ้นไป ในช่วงเวลา 12 เดือน เช่น หมกมุ่นอยู่กับการพนัน คิดถึงการพนันตลอดเวลา ต้องเพิ่มจำนวนเงินเพื่อให้ได้
ความตื่นเต้นเท่าเดิม พยายามหยุดเล่นแต่ทำไม่ได้ เล่นต่อเพื่อแก้ตัวจากการเสียเงิน โกหกครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเกี่ยวกับการพนัน หรือเสี่ยงต่อการเสียงาน สูญเสียความสัมพันธ์ หรือหนี้สิน เป็นต้น
นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ผลการศึกษาพบว่าการติดการพนันสัมพันธ์กับความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะโดปามีนและซีโรโทนิน แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาบางชนิดเพื่อควบคุมอารมณ์และลดความอยากหรือลดความพึงพอใจเมื่อเล่นการพนัน ร่วมกับการดูแลทางจิตใจและสังคม โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์เท่านั้นสำหรับการดูแลตนเอง ในกรณีที่เข้าข่ายว่าอาจจะเป็นผู้ที่ติดการพนัน ได้แก่ 1. ยอมรับว่าการติดการพนันเป็นปัญหาที่ต้องการการรักษา การปฏิเสธทำให้รักษายากที่สุด 2. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการหยุดเล่น เช่น ไม่เข้าสถานที่เสี่ยง ไม่ถือเงินสดจำนวนมาก 3. หากิจกรรมทดแทน เช่น ออกกำลังกาย เล่นดนตรี หรือทำงานอาสาสมัคร 4. บันทึกค่าใช้จ่ายและความรู้สึก เพื่อสังเกตสิ่งกระตุ้นให้กลับไปเล่น 5. เข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลือหรือพบแพทย์ อย่างต่อเนื่อง การเปิดใจพูดคุยกันด้วยความเข้าใจและไม่ตัดสิน เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการฟื้นฟู ครอบครัวควรเริ่มจากการสังเกตสัญญาณความเครียดของสมาชิกในบ้าน เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดถึงความรู้สึกอย่างปลอดภัย และร่วมกันสร้างข้อตกลงในการจัดการเรื่องการเงินหรือพฤติกรรมเสี่ยง ในส่วนของสมาชิกในครอบครัวหรือญาติติดการพนัน มีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือดังนี้ 1. เข้าใจว่าผู้ติดการพนันไม่ใช่คนขี้เกียจหรือไม่มีวินัย แต่เป็นผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลอย่างจริงจัง 2. หลีกเลี่ยงการตำหนิหรือซ้ำเติม เพราะจะเพิ่มความรู้สึกผิดและทำให้ซ่อนพฤติกรรมมากขึ้น 3. ตั้งขอบเขตที่ชัดเจนทางการเงิน เช่น ไม่ชำระหนี้แทนทุกกรณี แต่สนับสนุนให้รับผิดชอบอย่างเหมาะสม 4. ร่วมวางแผนการรักษากับทีมสุขภาพจิต 5. ดูแลสุขภาพจิตของตนเอง เพราะการอยู่ร่วมกับผู้ติดการพนันอาจก่อให้เกิดความเครียดและหมดกำลังใจ
กรมสุขภาพจิตขอแนะนำว่าการติดการพนันเป็นโรคที่มีความซับซ้อนทั้งทางชีวภาพ จิตใจ และสังคม แต่สามารถรักษาและฟื้นฟูได้หากได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสมจากแพทย์ ครอบครัว และชุมชน การเข้าใจและไม่ตีตราผู้ป่วยคือก้าวแรกของการเยียวยา และหากพบคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือเริ่มควบคุมการเล่นพนันไม่ได้ ควรเริ่มต้นด้วยการพูดคุยอย่างเข้าใจและให้กำลังใจ พร้อมส่งต่อเข้ารับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ โดยสามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันป้องกันไม่ให้ “การพนัน” กลายเป็นความสูญเสียของครอบครัว
********************
15 ตุลาคม 2568