อธิบดีกรมสุขภาพจิต ตรวจเยี่ยมพร้อมติดตามความก้าวหน้าภารกิจควบรวมจิตเวช และสารเสพติดแบบไร้รอยต่อ เขตสุขภาพที่ 1

          วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2567) นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ตรวจเยี่ยมพร้อมติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามภารกิจควบรวมจิตเวชและสารเสพติดแบบไร้รอยต่อ เขตสุขภาพที่ 1 โดยมี นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิตและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง แพทย์หญิงหทัยชนนี บุญเจริญ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ ว่าที่ร้อยโทโฆษิต กัลยา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 1 นายแพทย์อภิศักดิ์ วิทยานุกูลลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ ดร.นายแพทย์วรภัคธรณ์ ก้องเปสลาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับ

          นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ โดยมีข้อสั่งการโยกภารกิจยาเสพติดของกรมการแพทย์ไปกรมสุขภาพจิต ซึ่งได้ขานรับนโยบาย โดยมีการถ่ายโอนภารกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยครอบคลุมการกำกับดูแลสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) โรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง รวมถึงครอบคลุมทั้งระบบบริการในโรงพยาบาล เครือข่ายหน่วยบริการ และระบบชุมชน ซึ่งเป็นการยกระดับผสมผสานการดูแล การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยจิตเวชสารเสพติดเป็นไปในทิศทางเดียวกันแบบไร้รอยต่อช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

          นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า การตรวจเยี่ยมพื้นที่ภาคเหนือ เขตสุขภาพที่ 1 ประกอบด้วย โรงพยาบาลสวนปรุง สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1 โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ และโรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน ในส่วนของหน่วยบริการมีการบูรณาการงานสุขภาพจิตและสารเสพติดในพื้นที่ ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีส่วนสำคัญในการดูแลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตจากสารเสพติด ซึ่งการดำเนินงานร่วมกันทำให้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามเพื่อให้เห็นถึงความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการฐานข้อมูลระบบรายงานข้อมูลการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด (บสต.) และ ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์ Health Data Center (HDC) ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น
ในงบประมาณที่เหมาะสม เสริมการบำบัดรักษายาเสพติดเต็มรูปแบบในมินิธัญญารักษ์ในเขตสุขภาพที่ 1 ดังนั้น จึงจะให้การสนับสนุนผ่านกลไกของ Service plan ทั่วประเทศ ซึ่งมีการเชื่อมโยงในระบบข้อมูล การวินิจฉัย การรักษา การส่งต่อ
จนถึงระบบการติดตามฟื้นฟูในชุมชน นอกจากนี้ สนับสนุนให้มีเตียงผู้ป่วยไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เพื่อเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตยาเสพติดให้ครอบคลุม โดยมีแผนเติมอัตรากำลังบุคลากรในเขตสุขภาพ จึงอยากให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่มีความมั่นใจมากขึ้น

          อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเป็นเพียงปลายน้ำ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายป้องกันและปราบปราม สำคัญคือประชาชนเสพยาลดลง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ใช้ทีม อสม.ในการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ทำให้การป้องกัน ปราบปรามและการฟื้นฟู สอดรับกับการบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

                                                                    ********************                                 

14 พฤศจิกายน 2567                                                                                                                             

• ก่อนหน้า
• ต่อไป