IMG 5042

 

กรมสุขภาพจิต ลงพื้นที่เสริมพลังเครือข่ายใช้โปรแกรม Thai Triple-P ขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กและเยาวชนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตุน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

        วานนี้ (4 กันยายน 68) กรมสุขภาพจิตน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ลงพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตุน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เสริมพลังเครือข่ายครูและผู้ปกครอง นำโปรแกรม Thai Triple-P ส่งเสริมพัฒนาการและสุขภาพจิตเด็กปฐมวัย มุ่งสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตที่เข้มแข็งแก่เด็กไทยอย่างยั่งยืน

      นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีกรุณาธิคุณต่อเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร กรมสุขภาพจิตได้น้อมนำมาสู่การขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล พร้อมนำโปรแกรมการฝึกทักษะการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยไทย (The Thai Preschool Parenting Program หรือ Thai Triple-P) มาใช้เป็นแนวทางสำคัญในการส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรหลาน และพัฒนาแนวทางการดูแลแบบบูรณาการระหว่างครูและพ่อแม่ เพื่อนำไปปรับใช้ในการดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้การลงพื้นที่เยี่ยมเสริมพลังการดูแลและส่งเสริมป้องกันสุขภาพจิตเด็ก ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตุน อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจากที่พบการดำเนินการเต็มไปด้วยความสุขและ การเห็นประโยชน์ในการใช้โปรแกรมดังกล่าว กรมสุขภาพจิตต้องขอแสดงความขอบคุณ และขอเป็นกำลังใจแก่คุณครูทุกท่าน ที่มุ่งมั่นเรียนรู้ และนำองค์ความรู้จาก โปรแกรม Thai Triple-P ดูแลฟูมฟักบุตรหลานในพื้นที่ให้เติบโตอย่างแข็งแรงทั้งด้านความคิด สติปัญญา สุขภาพกาย และสุขภาพใจ เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของครอบครัว สังคม และประเทศชาติในอนาคต

       นายแพทย์ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าการใช้โปรแกรม Thai Triple-P ส่งผลเชิงบวกต่อเด็ก ครอบครัว และโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม โดยช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ การสร้างวินัยเชิงบวก และการพัฒนาพฤติกรรมที่เหมาะสม ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ปกครองและครูมีความเข้าใจและความมั่นใจมากขึ้นในการดูแลเด็กอย่างถูกวิธี ทั้งยังส่งเสริมให้ชุมชนเกิดบรรยากาศ ที่เกื้อหนุนต่อการเติบโตของเด็กอย่างรอบด้าน การขับเคลื่อนโครงการนี้จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการและการประสานงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ล่าสุดกรมสุขภาพจิตได้ลงพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตุน เพื่อเยี่ยมเสริมพลังและขับเคลื่อนการดูแลส่งเสริมสุขภาพจิตเด็ก โดยนำโปรแกรม Thai Triple-P มาประยุกต์ใช้ร่วมกันระหว่างครูและผู้ปกครอง เพื่อให้เกิดการดูแลแบบบูรณาการเด็ก ๆ ได้รับการฟูมฟักอย่างรอบด้าน ทั้งด้านความคิด สติปัญญา สุขภาพกายและใจ โดยมีคณะครูและผู้ปกครองให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง กรมสุขภาพจิตจึงขอขอบคุณ และขอเป็นกำลังใจแก่ครูทุกท่าน ที่จะร่วมกันหล่อหลอมบุตรหลานในพื้นที่ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ พร้อมเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไป

      นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิตและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า โปรแกรม Thai Triple-P ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งได้รับพระราชกรุณาธิคุณจากโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และความร่วมมือจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และเครือข่าย จนถึงปัจจุบันมีโรงเรียนที่เข้าร่วมทั้งสิ้นจำนวน 135 โรงเรียน ซึ่งภายในปี 2570 มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ถึง 214 โรงเรียน ซึ่งผลจากการดำเนินงานพบว่าในเขตสุขภาพที่ 1 มีจำนวนเด็กที่ได้เข้ารับการร่วมโปรแกรม จำนวนทั้งสิ้น 1,752 คน โดยก่อนเข้าร่วมโปรแกรมมีพัฒนาการสมวัยอยู่ที่ระดับร้อยละ 21.06 ซึ่งหลังจากดำเนินการพบว่ามีพัฒนาการสมวัยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35.16 คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.10 โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นได้มีจำนวนเด็กที่เข้าร่วมโปรแกรมตั้งแต่ปี 2565 จำนวน 220 คน โดยผลจากการดำเนินงานในปี 2568 พบว่าพัฒนาการเด็กที่เพิ่มขึ้นในเขตสุขภาพที่ 1 จากร้อยละ 11.65 เป็นร้อยละ 35.33 ผู้ปกครองมีทักษะ ในการใช้โปรแกรมเพิ่มขึ้นอีกด้วย จากเดิมก่อนเข้าร่วมรับการพัฒนาศักยภาพร้อยละ 54.37 เป็นร้อยละ 80.58 ซึ่งเพิ่มจากเดิมร้อยละ 26.21 ทีเดียว ในระยะต่อไปกรมสุขภาพจิตจะขยายผลการดำเนินงานไปยังพื้นที่อื่น ๆ และติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน


5 กันยายน 2568