Press ข่าววันนี้ 20 พฤษภาคม 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 147
กรมสุขภาพจิต ชี้ติดการพนันสามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย ชวนสังคมร่วมสังเกตสัญญาณเตือนพฤติกรรมเสี่ยงติดพนันของคนใกล้ชิด พร้อมแนะ 10 วิธีเช็กอาการ พร้อมแนวทางช่วยเหลือคนใกล้ตัว
วันนี้ (20 พฤษภาคม 2568) กรมสุขภาพจิต แสดงความห่วงใยต่อปัญหาการติดพนันที่กำลังแพร่หลายในสังคม หลังเกิดกรณียักยอกเงินบริจาควัดเพื่อนำไปใช้หนี้พนันออนไลน์ โดยผู้ก่อเหตุถูกชักชวนผ่านกลุ่มไลน์ และเข้าใจผิดว่าเป็นช่องทางหารายได้เสริม กรมสุขภาพจิตจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังและสังเกตพฤติกรรมเสี่ยง พร้อมแนะ 10 วิธีเช็กอาการ พร้อมแนวทางช่วยเหลือคนใกล้ตัว เพื่อตัดวงจรการเป็นหนี้ และป้องกันการกระทำผิดซ้ำ
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การพนันออนไลน์ได้กลายเป็นปัญหาสังคมที่มีมายาวนานและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ หรือต้องการหารายได้เสริม ซึ่งยิ่งซ้ำเติมให้ประสบปัญหาเพิ่มมากขึ้น การพนันในยุคปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบและช่องทางที่ล่อหลอกผ่านโฆษณา อีกทั้งระบบเกมยังถูกออกแบบให้ผู้เล่นรู้สึกว่ามีโอกาสชนะอยู่เสมอ จนเกิดพฤติกรรมเสพติดโดยไม่รู้ตัวและเมื่อไม่สามารถควบคุมตนเองได้ บางรายจึงหันไปหาทรัพย์สินจากแหล่งที่ไม่ชอบธรรม รวมถึงการยักยอกหรือฉ้อโกง แม้แต่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างวัดวาอาราม
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาการติดพนัน โดยเฉพาะพนันออนไลน์ กำลังกลายเป็นวิกฤตเงาในสังคมไทย หลายคนอาจตกอยู่ในวังวนนี้โดยที่ครอบครัวไม่ทันสังเกตเห็น ซึ่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่ติดพนัน อาจสูญเสียทรัพย์สิน และแม้กระทั่งอิสรภาพจากการถูกดำเนินคดีเพราะกระทำผิดกฎหมายเพื่อหาเงินใช้หนี้ และผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ ความสัมพันธ์และความเชื่อมั่นจากสังคมและคนรอบข้างที่อาจพังทลายลง ทั้งนี้ หากสงสัยว่าตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดอาจมีพฤติกรรมเสพติด สามารถประเมินเบื้องต้นได้ด้วย 10 วิธีเช็กโรคเสพติดการพนัน ได้แก่ 1. รู้สึกกระสับกระส่ายหรือหงุดหงิดง่ายเวลาพยายามหยุดหรือลดการเล่นพนัน 2. ความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญ โอกาสในด้านการงาน การเรียน หรืออาชีพเสียไปเพราะการพนัน 3. หลังจากเสียเงินพนันแล้ว ได้พยายามกลับไปเล่นเพื่อเอาเงินคืนบ่อยครั้ง 4. เล่นพนันเพื่อหนีปัญหาหรือให้รู้สึกดีขึ้นจากความไม่สบายใจ 5. ต้องให้บุคคลอื่นหาเงินมาช่วยให้พ้นจากหนี้พนัน 6. ทำผิดกฎหมาย เช่น ปลอมแปลงเอกสาร ขโมยของ เพื่อหาเงินใช้หนี้พนัน 7. พยายามควบคุม ลด หรือหยุดเล่นพนันแต่ไม่สำเร็จบ่อยครั้ง 8. พนันด้วยการเพิ่มเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรักษาความตื่นเต้น 9. โกหกครอบครัว แพทย์ หรือบุคคลอื่นเพื่อปกปิดการเล่นพนัน และ 10. ครุ่นคิดถึงแต่การพนันอย่างมาก ถ้ามีอาการตรงกับ 5 ข้อขึ้นไปและกระทบต่อการดำเนินชีวิตอาจเข้าข่าย "โรคติดพนัน" ซึ่งควรได้รับการดูแลโดยการให้คำปรึกษาหรือได้รับการบำบัดอย่างเหมาะสม คนใกล้ชิดสามารถช่วยเหลือได้โดย 1. ให้ตระหนักถึงปัยหา และสนับสนุนให้ใช้ศักยภาพของตนเองไปในทางที่เหมาะสม 2. ดูแลด้านจิตใจและสังคมอย่างใกล้ชิด 3. ช่วยจัดเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสม 4. กำหนดขอบเขตการใช้เงินและช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย และ 5. เข้าใจปัญหาและแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษา ก่อนมีปัญหาร้ายแรง และ 6. คอยดูแลและสังเกตว่ามีปัญหาด้านอารมณ์หรือไม่ ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการตำหนิ คาดหวังให้เขาหายจากการติดพนันทันที หรือรับผิดชอบหนี้แทน รวมถึงการปกปิดหรือไม่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของตนเองและครอบครัว
กรมสุขภาพจิตขอให้ประชาชนตระหนักว่า การพนันออนไลน์ไม่เพียงแต่ผิดกฎหมาย แต่ยังนำไปสู่การกระทำผิดร้ายแรงอื่น ๆ หากสงสัยว่าคนใกล้ชิดหรือตนเองเสี่ยงติดพนัน สามารถรับบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
********************
20 พฤษภาคม 2568