Press ข่าววันที่ 7 มิถุนายน 2567
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 451
กระทรวงสาธารณสุข รายงานมติสำคัญในการประชุมคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 พร้อมเร่งส่งเสริมสุขภาพจิตก่อนเกิดปัญหา จัดระบบเฝ้าระวังป้องกันการฆ่าตัวตายและความรุนแรงจากปัญหาสุขภาพจิตยาเสพติดให้มี “ตัวชี้วัดระดับจังหวัด” รวมทั้งเร่งจัดตั้งกองทุนสุขภาพจิตแห่งชาติ เพิ่มจิตแพทย์ และเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพจิต
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 รองนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติครั้งที่ 2/2567 เผยมั่นใจคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยแก้ไขปัญสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน การฆ่าตัวตาย ความรุนแรงในสังคม พร้อมกำชับให้คณะอนุกรรมการสุขภาพจิตจังหวัด เร่งส่งเสริมสุขภาพจิตก่อนเกิดปัญหาสุขภาพจิตหรือป่วยเป็นโรคจิตเวช จัดระบบเฝ้าระวังป้องกันผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่มีภาวะเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง โดยให้ถือเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการภายในจังหวัด พร้อมแก้ไขปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ ทั้งแผนระยะสั้นหาแหล่งสนับสนุนจากปปส. และแผนระยะยาวเตรียมจัดตั้งกองทุนสุขภาพจิตแห่งชาติ
นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญทางสุขภาพจิตของประเทศที่ต้องเร่งแก้ไข การแถลงตัวเลขข้อมูลจากทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในประเด็นคนไทยเผชิญปัญหาสุขภาพจิตกว่า 10 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลก ซึ่งมีปัญหาทั้งในวัยเด็กความเครียดจากการเรียนและการถูกกลั่นแกล้ง วัยทำงานมีปัญหาทำงานหนักเกินไปและหมดไฟ ผู้สูงวัยเกิดจากความเหงาและโดดเดี่ยว คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยมอบนโยบาย ให้ดำเนินการขับเคลื่อน ได้แก่ แผนสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน แผนการป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย แผนการป้องกันแก้ไขความรุนแรงในสังคมจากปัญหาสุขภาพจิต และที่สำคัญคือนโยบายให้คณะอนุกรรมการสุขภาพจิตจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพจิตก่อนเกิดปัญหาสุขภาพจิตหรือป่วยเป็นโรคจิตเวชโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในกลุ่มวัยเรียนวัยรุ่น โดยให้ถือเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการภายในจังหวัด จัดระบบเฝ้าระวังป้องกันผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่มีภาวะเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง และป้องกันแก้ไขปัญหาฆ่าตัวตาย ให้เป็น “ตัวชี้วัดระดับจังหวัด” ได้แก่ อุบัติการณ์การพยายามฆ่าตัวตายลดลง และอัตราการเฝ้าระวัง ช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด ที่เสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง (SMI-V) ตามระบบเฝ้าระวังความรุนแรง (V-Care)
นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ จะเร่งดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 นี้ โดยทำงานร่วมกับ ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมาตรการเพิ่มจิตแพทย์ที่ไม่เพียงพอ และจัดทำมาตรฐานการรับรองนักจิตบำบัดผ่านองค์กรด้านจิตบำบัด ซึ่งในระหว่างดำเนินการจะได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชนสามารถเข้าถึงจิตแพทย์และนักจิตบำบัดได้ อีกทั้งทำงานร่วมกับ สปสช. พิจารณาเพิ่มงบประมาณและสิทธิประโยชน์ด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการรักษาบำบัดผู้ป่วยรวมไปถึงเพิ่มสิทธิในการดูแลผู้ป่วยทางจิต ดังเช่นสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพจิตและจิตเวชยาฉีดรักษาอาการทางจิตชนิดออกฤทธิ์ยาว (Long-acting antipsychotic injection) ซึ่งมติที่ประชุมมอบสปสช.และ ฝ่ายเลขานุการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในสิทธิประโยชน์ฯต่อไป ในส่วนประเด็นที่สำคัญ คือ การจัดตั้งกองทุนสุขภาพจิตแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ มีมติเห็นชอบแผนระยะสั้น โดยให้จัดทำโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนการดำเนินงานสุขภาพจิตและยาเสพติดเสนอต่อปปส.เพื่อการแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วน ทันเหตุการณ์ และแผนระยะยาว ให้ดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติสุขภาพจิตฯ ควบคู่กับการเตรียมข้อมูลเสนอต่อกรมบัญชีกลาง แล้วให้รายงานความก้าวหน้าต่อคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติในการประชุมครั้งต่อไป
นอกจากนี้การประชุมดังกล่าวยังมีการเสนอความก้าวหน้าการจัดทำแผนการป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสังคมและแผน การป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายให้ที่ประชุมรับทราบ คณะทำงานที่เกี่ยวข้องและคณะอนุกรรมการจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์แห่งชาติจะเร่งดำเนินการ เพื่อทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมจะได้นำแผนดังกล่าวไปใช้ โดยจะนำเสนอแผนให้คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติรับรองในการประชุมครั้งถัดไป
******************** 7 มิถุนายน 2567