Press 24 พฤศจิกายน 2564
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 799
กรมสุขภาพจิต ชื่นชม 633 ชุมชนทั่วไทย ใช้วัคซีนใจลดอัตราการฆ่าตัวตาย
เร่งขับเคลื่อนผ่านทุกระบบเครือข่าย มุ่งสร้างความหวังสังคมไทยก้าวพ้นโควิด 19 บนหลักการชุมชนไม่ทอดทิ้งกัน
วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2564) กรมสุขภาพจิตจัดงานสัมมนา“ถอดรหัสนวัตกรรมวัคซีนใจในชุมชน 2564” โดยในปีนี้ กรมสุขภาพจิต พร้อมเดินหน้าประสานความร่วมมือกับทุกเขตสุขภาพ ปฏิบัติงานเชิงรุกเข้าไปดูแลจิตใจประชาชนถึงบ้านยึดหลักแนวคิด“วัคซีนใจในชุมชน” ใช้ศักยภาพชุมชมและใช้สายสัมพันธ์ในชุมชนมาร่วมกันสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้ประชาชนในวงกว้าง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะดูแลสุขภาพของประชาชนให้มีสุขภาพที่ดีภายใต้สถานการณ์การระบาดของ COVID 19 ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการส่งเสริมให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมและทั่วถึงทั้งประเทศ การเพิ่มกำลังในการให้บริการประชาชนทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ผ่านกลไก 3 หมอ และหน่วยบริการด้านสาธารณสุขในทุกระดับ ด้วยเหตุนี้การจะส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพจิตที่ดีจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายทางด้านสาธารณสุข ไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ต้องช่วยกันส่งเสริมและให้บริการด้านสุขภาพจิตให้กับประชาชน โดยมี อสม.และ อสส. เป็นผู้ปฏิบัติงานเชิงรุกเข้าไปดูแลจิตใจประชาชนถึงบ้าน นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้เลยคือภาคีเครือข่ายนอกระบบสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและแกนนำภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องในการให้ความร่วมมือการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตของประชาชน ภายใต้แนวคิด“วัคซีนใจในชุมชน” ที่ใช้ศักยภาพชุมชมและใช้สายสัมพันธ์ในชุมชนมาร่วมกันสร้างความรู้สึกปลอดภัย สร้างความสงบ สร้างความหวัง และสร้างความเข้าใจให้โอกาสกันในชุมชน นำไปสู่การมีพลังใจที่จะก้าวผ่านวิกฤตการระบาดในครั้งนี้ไปพร้อมกัน ดังคำว่า“ชุมชนที่ไม่ทอดทิ้งกัน”
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาด้านสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์การระบาดจะพบว่า ประชาชนมีความเครียด มีภาวะหมดไฟ มีภาวะซึมเศร้าและมีความคิดทำร้ายตนเองเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้พบว่าปัญหาด้านสุขภาพจิตส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากปัจจัยทางสังคม สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ รายได้ ความจำเป็นและข้อจำกัดในการปรับตัวต่อวิถี New Normal และมาตรการป้องกันและควบคุมโรคต่างๆ จึงขอฝากนโยบายการเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชนให้ภาคีทุกภาคส่วนนำไปปฏิบัติ เพื่อร่วมกันดูแลจิตใจพี่น้องประชาชน ให้พี่น้องชาวไทยทุกคนนั้นฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปได้ โดยใช้ทั้งความหวังและพลังใจเป็นเครื่องชี้นำเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตมีการดำเนินงานในระดับชุมชนร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกระบบสาธารณสุข มาตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา และประสบความสำเร็จใน 633 ชุมชนใน ทุกจังหวัด สามารถขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยการเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชนขึ้น เพื่อศึกษาต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้จากการดำเนินงานในปี 2563 ที่ผ่านมา โดยใช้พื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน กาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 4 ภาคทั่วประเทศ
ภายในงานวันนี้ยังมีการมอบรางวัลแก่ชุมชนและบุคคลต้นแบบที่ช่วยขับเคลื่อนงานเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อลดผลกระทบทางสังคมจิตใจและป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย และให้มีเวทีสำหรับจัดทำบันทึกข้อตกลงการดำเนินงานการเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชนระหว่างกรมสุขภาพจิตร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ที่จะเป็นแกนนำสำคัญในการนำหลักการการเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชนไปใช้และร่วมผลักดันให้เกิดการปฏิบัติจริงในพื้นที่ต่อไปอีกด้วย