Press ข่าววันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 995
กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล บูรณาการทางวิชาการสื่อสารแรงงานข้ามชาติ เพื่อลดปัญหาสังคมจากการระบาดโควิด 19
วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2564) กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการเพื่อรองรับสถานการณ์และผลกระทบอันเกิดจากสถานการณ์โรคโควิด 19 โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์ด้านการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ในประเทศไทยที่เริ่มมีการระบาดระลอกใหม่ อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากการแพร่ระบาดอันมีที่มาจากแรงงานข้ามชาติ ซึ่งสถานการณ์การระบาดในครั้งนี้ มีอุปสรรคที่สำคัญคือเรื่องของการสื่อสารและสร้างความเข้าใจเพื่อขอความร่วมมือจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภาครัฐได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนและที่สำคัญที่สุดคือ การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความร่วมมือในการเป็นสื่อกลางในการสื่อสารในพื้นที่ที่มีการควบคุมเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความราบรื่น จึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่การบูรณาการองค์ความรู้และการสื่อสารวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มแรงงานข้ามชาติกับสังคมไทย จะเป็นการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมที่ยั่งยืนบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชนและการมีชีวิตที่ดีของประชากร และผู้ที่ย้ายถิ่นเข้ามาในประเทศไทยอีกด้วย
ศาสตราจารย์นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในขณะนี้นอกจากประชาชนชาวไทยที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดแล้ว กลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่น ๆ ก็ประสบปัญหาภาวะโรคระบาดเช่นกัน การแก้ปัญหาโรคระบาดและช่วยเหลือกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นประเด็นทางมนุษยธรรมที่ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมไทยต้องร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือ ทางมหาวิทยาลัยมหิดลมีความห่วงใยและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตอย่างจริงจัง ในการดำเนินงานวิจัย การบริการวิชาการและการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์ด้านการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่นี้ นำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาสังคมไทยและอาเซียนต่อไป
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต และสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกันเผยแพร่ความรู้ และสร้างความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด 19 และการแก้ปัญหาสังคมด้วยกลไกการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม โดยใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชียและองค์ความรู้กรมสุขภาพจิต นำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาการเพื่อลดผลกระทบอันเกิดจากสถานการณ์โรคโควิด 19 และพัฒนาความมั่นคงในทุกด้านของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างยั่งยืน
.............................................
22 กุมภาพันธ์ 2564