Press ข่าววันนี้ 2 พฤศจิกายน 2567
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 201
กรมสุขภาพจิต ร่วมไว้อาลัยกรณีแรงงานไทยเสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เร่งมอบหมาย MCATT ลงพื้นที่เยียวยาใจและเฝ้าระวังสถานการณ์ทางใจครอบครัวของแรงงานอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2567) กรมสุขภาพจิต แสดงความเสียใจกรณีแรงงานไทยเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คนจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล พร้อมเตรียมพร้อมติดตามสถานการณ์เพื่อวางแผนดูแลจิตใจครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ทำให้แรงงานไทยเสียชีวิต 4 คน 1 ในจำนวนนั้นได้รับการยืนยันว่าเป็นคนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี กรมสุขภาพจิตขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และได้มอบหมายให้ทีมช่วยเหลือเยี่ยวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) เข้าพื้นที่และกำหนด
แนวทางการดูแลเยียวยาจิตใจอย่างใกล้ชิด ซึ่งในวันนี้ศูนย์สุขภาพจิตที่ 8 ได้ดำเนินการประสานข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากทีม MCATT สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีและโรงพยาบาลกุดจับ ร่วมกับเครือข่ายระดับชุมชนลงเยี่ยมบ้าน และได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตมี อยู่ด้วยกัน 4 คน คือพ่อแม่ /น้องสาวที่พิการ และลูก 1 คน ซึ่งในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ทีมจากทั้ง
3 หน่วยงานในพื้นที่ จะลงเยียวยาจิตใจครอบครัวในวลาต่อไป
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า และเนื่องจากสถานการณ์ที่ยังไม่คลี่คลาย กรมสุขภาพจิตจึงกำหนดแนวทางดูแลจิตใจครอบครัวของแรงงานไทยในสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล แต่ละกลุ่มเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1. ระยะวิกฤต (Impact Phase) ครอบคลุมช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง ถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งปฏิกิริยาทางใจที่จะแสดงออกในระยะนี้ ประกอบด้วย ช็อก โกรธ เศร้า เสียใจ
และวิตกกังวล ในช่วงระยะวิกฤตจะใช้แนวทางในการช่วยเหลือโดยวิธีการปฐมพยาบาลทางใจ 2. ระยะปรับตัว (Post-Impact Phase) ครอบคลุมช่วง 2 - 4 สัปดาห์ ซึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะพบว่า มีอาการเศร้า เสียใจ มีการกังวลกับผลกระทบจากเหตุการณ์ โดยมีแนวทางในการช่วยเหลือของระยะนี้ ประกอบด้วย การใช้วัคซีนใจในชุมชน เพื่อค้นหาแหล่งสนับสนุนในการช่วยปรับตัว และ 3.ระยะฟื้นฟู (Recovery Phase) จะเริ่มหลังจากเกิดเหตุการณ์ 1 เดือนเป็นต้นไป บางรายอาจจะเริ่มปรับตัวได้กับวิถีชีวิตใหม่ หรือบางรายอาจแย่ลงหากยังอยู่ในพื้นที่ความไม่สงบ แนวทางช่วยเหลือจะใช้วิธีจิตบำบัด หรือสังคมบำบัดเพื่อฟื้นฟูดูแลต่อเนื่องภายในชุมชน ส่วนคนไทยที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด สามารถดูแลจิตใจด้วยตนเองเบื้องต้น ดังนี้ 1. รับประทานอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอ 2. รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง 3. สังเกตอารมณ์ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ 4. หลีกเลี่ยงการรับข่าวสารที่มากเกินไป ไม่ส่งต่อภาพความรุนแรงต่างๆ และ 5. พูดคุยกับคนอื่นเพื่อระบายความรู้สึก เน้นการสร้างความเข้มแข็งทางใจ หากพบความผิดปกติของตนเองหรือคนใกล้ชิด ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือจิตแพทย์ ณ สถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อขอรับคำปรึกษาและการบำบัดรักษา หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 อีกด้วย
********************
2 พฤศจิกายน 2567