Press ข่าววันที่ 25 เมษายน 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 101
กรมสุขภาพจิต เผยผลปฏิบัติงานดูแลผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวทั่วประเทศ เน้นสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง รวมพลังพร้อมสู้ภัยทุกสถานการณ์ ชี้การช่วยเหลือประสบความสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
วันนี้ (25 เมษายน 2568) กรมสุขภาพจิต เผยผลการดำเนินงานดูแลผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว สามารถควบคุมได้จากความร่วมมือ พร้อมเน้นย้ำการเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถรับมือและฟื้นตัวจากทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นคงในระยะยาว พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมืออย่างทันท่วงที ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ทีมจิตอาสา และสื่อมวลชน
ที่ได้ทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือและลดผลกระทบทางจิตใจในวิกฤตครั้งนี้
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 แรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบถึงหลายพื้นที่ของประเทศไทย กรมสุขภาพจิตได้ระดมทีมปฏิบัติการเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินงานดังกล่าว ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) สามารถดูแลจิตใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศไปแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 9,124 ราย ซึ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบร้อยละ 99 ได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจ (Psychological First Aid) ผู้ขอรับคำปรึกษาในกรณีแผ่นดินไหวผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323 รวมทั้งสิ้น 564 ราย และผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 100 ราย ได้รับการส่งต่อเพื่อพบแพทย์จิตเวชเพื่อรับการประเมินและดูแลรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้หน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชนได้ดำเนินการสื่อสารเพื่อสร้างความรอบรู้สุขภาพจิตผ่านช่องทางออนไลน์ ที่มียอดการเข้าถึงกว่า 20 ล้านครั้ง เพื่อสื่อสารให้ประชาชนเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือภัยพิบัติ การดูแลด้านสุขภาพจิตและภาวะเครียดเฉียบพลัน การให้คำปรึกษาและบริการช่วยเหลือด้านจิตใจ การสื่อสารเพื่อลดความตระหนกและป้องกันข่าวปลอม ตลอดจนการสร้างแรงสนับสนุนและกำลังใจในสังคม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจในระยะยาว
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นกรมสุขภาพจิต หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้ลงพื้นที่อย่างทันท่วงที และให้การดูแลจิตใจแก่ประชาชนได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชน และภาคประชาสังคม ที่ช่วยกันส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้อง ลดความตื่นตระหนกในสังคม กรมสุขภาพจิตขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจ และยืนยันว่าจะทำงานเคียงข้างกันต่อไป เพื่อดูแลใจประชาชนในทุกสถานการณ์ ซึ่งสิ่งสำคัญที่เราเรียนรู้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ “ตระหนัก ไม่ตระหนก” เพราะมีส่วนช่วยลดความรุนแรงทางสุขภาพจิตได้อย่างมาก และขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลใจตนเองและคนรอบข้าง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในอนาคต ขอให้ประชาชนงดส่งต่อภาพหรือข้อมูลที่รุนแรง ซึ่งอาจกระทบต่อจิตใจผู้อื่น พร้อมเปิดใจรับฟัง ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และหากรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือไม่สบายใจ สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตยังได้เตรียมความพร้อมด้านระบบการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องต่อไป และจะดำเนินการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์วิกฤตเพื่อนำไปใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพจิตในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการสื่อสารที่กระชับ ฉับไว และหลากหลายภาษา เพื่อให้สามารถดูแลและเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
********************
25 เมษายน 2568