Press ข่าววันนี้ 1 ธันวาคม 2567
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 498
กรมสุขภาพจิต เร่งติดตามสถานการณ์หมอกควันที่ประเทศไทยในเขตภาคเหนือ เน้นย้ำใช้หลัก 3 ส เพื่อดูแลกาย ใจ และรับฟังข่าวสารด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก
วันนี้ (1 ธันวาคม 2567) กรมสุขภาพจิต ได้บูรณาส่งทีม MCATT ร่วมกับพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ร่วมดูแลกายใจให้ห่างไกลอันตรายและลดความตระหนกจากสถานการณ์หมอกควันที่ประเทศไทยในเขตภาคเหนือ
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยง ในกรณีสถานการณ์หมอกควันที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภายในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ทุกภาคส่วนติดตามและบูรณาการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากปัญหาฝุ่นละออง หมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีค่า PM 2.5 สูงขึ้นเกินค่ามาตรฐานส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของหลายๆ คน รวมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ โดยเฉพาะสุขภาพใจนั้น หากเราเกิดความเครียดจะทำให้เกิดอาการหงุดหงิด วิตกกังวล กลัว คิดมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องการเรียนหรือการทำงานได้ จึงต้องดูแลสุขภาพทางใจให้ดีเป็นพิเศษ สร้างความตระหนักและไม่ตื่นกลัว แต่เน้นตื่นตัวในการป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง อีกทั้งไม่กล่าวโจมตีด้วยอารมณ์ที่รุนแรงด้วยการหาผู้ที่สร้างความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นจากภายในประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงเลือกรับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า กรมสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิตจึงขอแนะนำให้ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามที่แนวทางที่ภาครัฐบาลได้ประกาศ และในด้านการดูแลจิตใจได้บูรณาส่งทีม MCATT ร่วมกับพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 เพื่อวางแผนและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ขอเน้นย้ำให้ประชาชนใช้ 3 ส. ในการรับมือและมีการป้องกันที่ดี เพื่อจะช่วยลดความเครียดลงได้ ส.ที่ 1 คือ ให้สอดส่องมองหา ผู้ที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวช หรือกลุ่มเปราะบาง เป็นต้น ส.ที่ 2 คือ ใส่ใจ รับฟัง เพื่อช่วยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก คลายความทุกข์ในใจ เพื่อช่วยให้อารมณ์สงบขึ้น สบายใจขึ้น ส.ที่ 3 คือ ส่งต่อคนที่อาจกำลังประสบปัญหาสุขภาพจิต ให้ไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการประเมินและรับความช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยส่งต่อของที่จำเป็นพื้นฐานให้กัน เช่น น้ำ อาหาร ยา จะช่วยบรรเทาความทุกข์ในเบื้องต้น และมีความเข้มแข็งทางใจเพิ่มขึ้น สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาวิกฤติหรือความยากลำบากไปได้
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจจะหลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูง ทั้งนี้ หากใครยังเครียดมาก วิตกกังวล นอนไม่หลับ สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอรับบริการด้านสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัดกรมสุขภาพจิตใกล้บ้านได้อีกด้วย
********************
1 ธันวาคม 2567