กรมสุขภาพจิต ส่งทีม MCATT ร่วมกับทีมโรงพยาบาลศรีบุญเรืองและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจเหตุการณ์ชายวัย 58 ปี ยิงประชาชนหลายราย

          วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2567) กรมสุขภาพจิต ดำเนินการตามข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่งทีม MCATT จากโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ร่วมกับทีมโรงพยาบาลศรีบุญเรือง ร่วมเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจเหตุการณ์ที่ชายวัย 58 ปี ยิงประชาชนเสียชีวิตหลายราย พร้อมแนะนำแนวทางการควบคุมอารมณ์ และการจัดการความโกรธเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในสังคม

          นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ชายวัย 58 ปี ยิงประชาชนในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรืองและอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายกรมสุขภาพจิตส่งทีม MCATT จากโรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ประสานงานกับทีมโรงพยาบาลศรีบุญเรือง เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมลงพื้นที่เยียวยาต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในที่สาธารณะและมีประชาชนเห็นเหตุการณ์จำนวนหนึ่ง จึงมีความจำเป็นต้องเข้าดำเนินการด้านสุขภาพจิตสำหรับประชาชนในพื้นที่ เพื่อคัดกรอง และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ ซึ่งทั้งนี้ สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำประชาชนหากพบเห็นสัญญาณเตือนของผู้ที่เสี่ยงต่อการก่อความรุนแรงหรือมีอาการทางจิตเวชรุนแรง ซึ่งประกอบด้วย ไม่หลับไม่นอน เดินไปเดินมา พูดจาคนเดียว หงุดหงิดฉุนเฉียว เที่ยวหวาดระแวง ให้พยายามออกมาจากบริเวณดังกล่าว หรือขอความช่วยเหลือหากรู้สึกไม่ปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสายด่วน 191 เพื่อความปลอดภัยของตนเองด้วย

          นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้จะเห็นข่าวของคนที่มีมีอารมณ์โกรธแค้นแล้วไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จนนำไปสู่ความสูญเสียทั้งทรัพย์สิน ร่างกาย หรือแม้แต่ชีวิตของคนที่อยู่รอบข้าง ในบางกรณีนี้อาจมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับผู้ที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองด้วย ทั้งนี้โดยทั่วไป อารมณ์โกรธก็เป็นอารมณ์ชนิดหนึ่ง เหมือนอารมณ์สุข อารมณ์เศร้า อารมณ์เสียใจ ซึ่งเป็นธรรมชาติของเราที่เกิดขึ้นได้ มีระดับตั้งแต่เบาสุดไปจนถึงรุนแรงที่สุด เช่น ความโกรธจะเริ่มจากความไม่พึงพอใจจนถึงเป็นความโกรธสุดๆ ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทำให้เกิดการแสดงอารมณ์โกรธที่ไม่สร้างสรรค์หรือนำไปสู่การทำผิดกฎหมาย ธรรมชาติของอารมณ์คนเราที่สำคัญคือเมื่อเวลาผ่านไปอารมณ์เหล่านี้จะค่อยๆ ลดลง และเราก็จะสามารถมีสติในการพิจารณามองปัญหาและ แก้ไขปัญหาได้ดีกว่าตอนที่ยังมีอารมณ์รุนแรง อารมณ์โกรธเป็นอารมณ์ทางลบซึ่งส่งผลทั้งทางร่างกาย เช่น ทำให้หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อ เกร็ง ตึงเครียด และทางจิตใจคือความรู้สึกเครียด กดดัน วิธีการจัดการความโกรธในระยะแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ความโกรธของเราไปทำร้ายคนอื่นและกระทั่งตัวเราเองก็คือ 1. รับรู้อารมณ์ของตัวเองว่าเริ่มมีอารมณ์ ไม่พึงพอใจแล้วและกำลังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความโกรธ หรือในที่สุดกลายเป็นความเคียดแค้น 2. รีบจัดการอารมณ์โกรธนั้นตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น การเตือนตัวเองให้มีสติรับรู้ว่าเรากำลังโกรธ ใช้การหายใจเข้าออกลึกๆ ใช้การแสดงความรู้สึกหรือความต้องการของตัวเองให้คู่กรณี
ได้รับรู้อย่างสร้างสรรค์ หรือพยายามหันเหความสนใจไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ผ่อนคลายมากกว่า เช่น การดูหนังฟังเพลงหรือการออกกำลังกาย รวมถึงพูดคุยขอคำปรึกษาจากคนที่ไว้ใจได้ กิจกรรมเหล่านี้จะเป็นการช่วยถ่วงเวลาทำให้อารมณ์ที่กำลังรุนแรงค่อยคลี่คลายลงไปได้ 3. เมื่ออารมณ์โกรธลดลงให้ลองพิจารณาทบทวนถึงสาเหตุของความโกรธในครั้งนี้และหาวิธีแก้ไขที่สร้างสรรค์ที่สุด ในระยะยาว สำหรับคนที่โกรธง่ายควรฝึกตัวเองโดยใช้สติรับรู้อารมณ์ของตน แล้วรีบจัดการอารมณ์นั้นก่อนที่จะปล่อยให้ความโกรธรุนแรงครอบงำจนควบคุมตัวเองไม่ได้ หากฝึกหัดและเตือนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถควบคุมให้แสดงออกอารมณ์อย่างเหมาะสมได้
ในทุกสถานการณ์

                                                                    ********************                                 

27 พฤศจิกายน 2567                                                                                                                             

• ก่อนหน้า
• ต่อไป